All About Chanel 19 สิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับการเป๋าสุดไอคอนนิคในนี้

All About Chanel 19 กระเป๋ารุ่นสุดท้าย ที่ถูกออกแบบโดย Karl Lagerfeld ดีไซเนอร์ระดับตำนาน ราชาแห่งวงการแฟชั่นผู้ล่วงลับ เปิดตัวครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคม ค.ศ. 2019 โดยเป็นส่วนหนึ่งของคอลเลกชั่น Fall/Winter 2019 ในความพยายามร่วมกัน Largerfeld และ Virginie Viard ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์คนปัจจุบันของ Chanel ได้รับแรงบันดาลใจจาก Classic Flap และ 2.55 Flap อะไรคือความเก๋ไก๋ของมัน ที่ทำให้มันขึ้นแท่นเป็น It bag อย่างรวดเร็วหลังการเปิดตัว SF Brandname จะพาไปหาคำตอบพร้อมกัน

Chanel 19

ต้นกำเนิดของชาแนล 19 เป็นเรื่องที่สะเทือนใจเล็กน้อย กระเป๋ารุ่นนี้เป็นส่วนหนึ่งของคอลเล็กชันสุดท้ายของ Karl Lagerfeld ซึ่งได้รับการเปิดเตัวในงาน EMOTIONAL RUNWAY SHOW หนึ่งเดือนหลังจากที่เขาเสียชีวิต เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2019 Karl ออกแบบกระเป๋ารุ่นนี้ร่วมกับ Virginie Viard 'ผู้ช่วยมือขวาคนสำคัญ' ของเขา ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้สืบทอดผลงานสร้างสรรค์ในทันที หลังจากที่เขาถึงแก่กรรม

ดังนั้น Chanel 19 จึงเปรียบเสมือนตัวแทนของโลกทั้ง 2 ใบ ระหว่างโลกของประวัติศาสตร์แบรนด์และโลกของแฟชั่นในปัจจุบัน เป็นผลงานที่หวนกลับไปสู่ประวัติศาสตร์อันโด่งดังของแฟชั่นเฮ้าส์แห่งนี้ นขณะเดียวกันก็ตั้งหน้าตั้งตารอสู่ยุคใหม่ สำหรับชื่อ "Chanel 19" นั้น ถูกตั้งขึ้น ตามปีที่เปิดตัวคือปี 2019 (และวันเกิดของ Coco Chanel ในวันที่ 19 สิงหาคม) ถือได้ว่าเป็นการแสดงเจตจำนงของ Chanel

อีกทั้งยังเป็นการรำลึกถึงกระเป๋า Chanel 2.55 ซึ่งถูกตั้งชื่อตามหมายเลข 5 โดยChanel ถือเรื่องโชคลางเป็นอย่างมาก และเธอเชื่อว่าหมายเลข 5 คือเลขนำโชคของเธอ รวมถึงวันที่กระเป๋ารุ่น 2.55 เปิดตัวครั้งแรก คือเดือนกุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 1955 สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความเอาใจใส่และใช้หัวใจในการผลิตกระเป๋าและสินค้าทุกชิ้นของแบรนด์ กลิ่นอายของประวัติศาสตร์ จะยังอบอวลอยู่ในไอค่อนแห่งแฟชั่นเหล่านี้ไม่จางหายไปตามกาลเวลา

เสน่ห์ดึงดูดใจของ กระเป๋ารุ่นนี้ อยู่ที่กลิ่นอายของความเป็นฝรั่งเศสที่อัดแน่นอยู่ในกระเป๋าทุกใบ การออกแบบที่ร่วมสมัย ด้วยตะขอตัว C ไขว้ขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ Chanel เหมาะกับสาวๆ ทันสมัยและหนุ่มๆ ที่ชอบความท้าทาย บอกเล่าความเป็นชาแนลผ่านดีไซน์ที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งความคลาสสิคที่เป็นอมตะ

Down to the Details รายละเอียดของกระเป๋า

Chanel 19 สะท้อนรูปทรงสี่เหลี่ยมสุดคลาสสิกของ 2.55 แต่มีความทันสมัยและผ่อนคลาย มาพร้อมกับลวดลายข้าวหลามตัดอันเป็นเอกลักษณ์ ในรูปแบบที่ใหญ่ขึ้น ตัดเย็บจากหนังที่มีความอ่อนนุ่มเป็นพิเศษ เช่น Lambskin, Calf Skin หรือ Goat Skin  ให้สัมผัสที่นุ่มสบาย เมื่อเปรียบเทียบกับโครงสร้าง 2.55 แล้ว ความอ่อนนุ่มและการออกแบบโดยรวม ทำให้ชาแนล 19 มีความสวยงามที่ดูอ่อนเยาว์

ตัวกระเป๋าเป็นแบบฝากระเป๋าเดียว มีขอบโค้งมนเบาๆ ทำให้แยกจากเส้นที่คมชัดกว่าของรุ่น 2.55 ด้านหน้าโดดเด่นด้วยสัญลักษณ์ CC ไขว้อันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งได้รับการออกแบบมาให้คล้ายกับสายโซ่หนังทอ ในอดีตของ Chanel ในขนาดย่อส่วน ด้านในบุผ้า มีช่องซิป 1 ช่อง เนื่องจากโครงสร้างที่อ่อนนุ่ม ชาแนล 19 จึงมีข้อได้เปรียบในด้านความกว้างขวางอย่างน่าประหลาดใจ พร้อมความสามารถในการเก็บสิ่งจำเป็นทั้งหมดของคุณ

เอกลักษณ์อย่างหนึ่งของกระเป๋ารุ่นนี้ คือ สายสะพายโซ่ทำด้วยโลหะ ออกแบบให้มี 3 ลักษณะ (trio of chains) สอดด้วยเส้นหนัง ร้อยต่อเนื่องไล่ตั้งแต่ข้อต่อสีทองด้าน, รูธีเนียม (ruthenium) และสีเงิน ทำให้มันกลายเป็นกระเป๋าคู่ใจ ที่สามารถไปไหนมาไหนกับคุณได้ทุกหนแห่ง และเข้ากันได้กับทุกสไตล์การแต่งตัว รวมถึงเครื่องประดับที่คุณสวมใส่ อย่างไรก็ตาม เมื่อเร็ว ๆ นี้ Chanel เพิ่งผลิต Chanel 19s ด้วยฮาร์ดแวร์ที่กลับด้าน โดยใช้อะไหล่สีเงินเป็นหลัก

ด้วยโครงสร้างที่มีความยืดหยุ่นสูง สายสะพายปรับใช้ได้งานได้หลายแบบ ทั้งแบบสะพายข้างหรือปรับสำหรับใช้คล้องมือถือก็สวยงาม คุณยังสามารถถือมันไว้ใต้วงแขนเป็นกระเป๋าคลัตช์ได้ด้วย อีกทั้งยังมี รุ่นคาดเอว (Waist Bag) ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ปัจจุบันที่ต้องการความคล่องแคล่วคล่องตัวและรักอิสระ

ชาแนล 19 มาในสี่ขนาดมาตรฐาน โดยขนาดเล็กที่สุดคือ WALLET ON CHAIN (WOC) ซึ่งวัดจากฐานได้ 19.2 เซนติเมตร และมีพื้นที่เพียงพอสำหรับใส่สิ่งของจำเป็น เช่น โทรศัพท์ ที่ใส่บัตร และลิปสติก ถัดไปเป็น Flap bag ขนาดมาตรฐาน โดยวัดได้ 26 เซนติเมตร LARGE FLAP BAG มีขนาด 30 เซนติเมตร ในขณะที่ MAXI FLAP BAG มีขนาด 36 เซนติเมตร ชาแนลยังผลิตกระเป๋าคาดเอว มินิคลัตช์บนสายโซ่ และกระเป๋าสตางค์ที่มีตราสัญลักษณ์ CC ไขว้ เอกลักษณ์ของชาแนล 19 อีกด้วย

Worth it ? ควรลงทุนหรือไม่ 

สิ่งนี้อาจเป็นคำถามที่เกิดขึ้นภายในใจของใครหลาย ๆ คนที่กำลังตัดสินใจจะเป็นเจ้าของชาแนล 19 ว่ามันจะยืนหยัดผ่านการทดสอบของกาลเวลาหรือไม่ ? นักสะสมบางคนแสดงความสงสัยในอายุการใช้งานที่ยาวนานเนื่องจากความสวยงามของกระเป๋าแบบยุคปัจจุบัน ซึ่งมีแนวโน้มว่า อายุการใช้งานอาจสั้นกว่ากระเป๋ายุคเก่า เนื่องจากวัสดุในการตัดเย็บที่ใช้ อาจมีความแตกต่างกันไป ซึ่งมักส่งผลต่อระยะเวลาการใช้งาน

เราขอยกตัวอย่างกระเป๋า The Boy Bag เพื่อเป็นเครื่องยืนยันของความสำเร็จ The Boy Bag เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 2011 ด้วยแรงผลักดันด้านการตลาดที่เข้มข้นเช่นเดียวกันกับนักช้อปรุ่นมิลเลนเนียล และถึงแม้จะมีการผลิตออกมาหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็นรุ่นคลาสสิกยอดนิยมหรือรุ่น Seasonal ซึ่งออกตามฤดูกาล แต่ปัจจุบันถือได้ว่า Chanel Boy เป็นกระเป๋าที่ขึ้นแท่นคลาสสิกยอดนิยม ยืนเคียงข้าง Chanel Classic Flap bag และรุ่น 2.55 ได้อย่างไม่ต้องสงสัยเคลือบแคลง ด้วยราคาขายต่อที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 2019 หลังจากเปิดตัวชาแนล 19 ให้โลกแฟชั่นได้รับรูัถึงศิลปะการออกแบบ ที่ผสมผสานการออกแบบอันร่วมสมัย รูปทรงที่ดูนุ่มนวลแต่ซ่อนความเข้มแข็งไว้ในตัว ผสมผสานอดีตอันคลาสสิค ความเป็นปัจจุบันและอนาคตของชาแนลเอาไว้ได้อย่างลงตัว ความทันสมัยอย่างเหลือเชื่อในการออกแบบและตกแต่งทำให้มีความคลาสสิกในแบบของตัวเอง

มาถึงตรงนี้แล้ว ชาแนล 19 ก็อาจกลายเป็นกระเป๋าในฝันอันดับต้น ๆ ของรายการในฝันของคุณแล้วใช่ไหม ? นอกจาก Chanel Classic Flap Bag แล้ว นี่คือกระเป๋า Chanel ที่เราโปรดปรานตลอดกาล ที่ SF Brandname เรามีกระเป๋าชาแนลหลายรุ่น คอยต้อนรับและให้บริการ

ซึ่งทาง SF Brandname ขอรับรองว่าสินค้าทุกชิ้นจากทางร้านเป็นของแท้ 100% มั่นใจด้วย Warranty Card เพื่อรับประกันความเป็นของแท้ พร้อมด้วยบริการครบวงจรไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการซื้อขาย แลกเปลี่ยนจำนำ หรือสปากระเป๋า สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมตามช่องทางดังต่อไปนี้

• Facebook : sfbrandname
• IG : sfbrandname
• Line : @sfbrandnamebkk
• Tel : 02-821-6444